โดย สุรเชษฐ์ พอสม
เริ่มต้นมีอยู่ว่าผู้เขียนเป็นคนชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ การเมือง สังคม เศรษฐกิจ ของพื้นถิ่น และประเทศ หรือต่างประเทศเป็นทุนเดิม จึงได้รบเร้าให้คุณยาย หรือ เรียกตามภาษาพื้นถิ่นของผู้เขียนว่า “แม่อุ้ย” ให้เล่าเรื่องราวต่างๆตั้งแต่แม่อุ้ยจำความได้ให้ฟังว่ามีเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้นบ้างในแต่ละช่วงยุคสมัย แม่อุ้ยก็เล่าเรื่องราวมากมายให้หลานๆฟัง หลากหลายเรื่องราวอารมณ์ ไว้มีโอกาสผู้เขียนจะมาถ่ายทอดให้อ่านกันในวาระต่อไป
แม่อุ้ยมีชื่อว่า เกี๋ยง จันทร์ขาว นามสกุลเดิมคือ มโนรส พอแต่งงานจึงได้ใช้นามสกุลตา หรือพ่ออุ้ยแทนตามธรรมเนียมปฏิบัติ เอาหละอย่างไรก็ตาม เหล่าหลานๆก็มักจะเรียกสั้นๆว่า แม่อุ้ยมากกว่าที่จะเอ่ยนามท่าน แม่อุ้ยเกิด วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2477 ปัจจุบันที่ผู้เขียนกำลังเขียน แม่อุ้ยอายุได้ 86 ปี 7 เดือน 27 วัน ยังสุขภาพแข็งแรงดี ยังเล่าเรื่องราวในอดีตให้หลานๆได้ฟังอีกหลายปี เพราะแม่อุ้ยความจำดีมากๆ ท่องแม่สูตรคูณตั้งแต่แม่ 1–12 ได้เป๊ะจนผู้เขียนต้องขอยอมแพ้
ขออิงเหตุการณ์ระดับประเทศสักหน่อยว่าปี พ.ศ.2477 ปีเกิดของแม่อุ้ยนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
- ประเทศสยาม มีพระมหากษัตริย์ปกครองคือ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (อ้างอิง 1)
- พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสละราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ
- เจ้าแก้วนวรัฐ ยังมีสถานะเป็นเจ้าผู้ปกครองประเทศราช นครเชียงใหม่
- เจ้าจักรคำขจรศักดิ์ ยังมีสถานะเป็นเจ้าผู้ปกครองประเทศราช นครลำพูน
- ประเทศสยามมีนายกรัฐมนตรีคือ พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน)
- วันก่อตั้งมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (ภายหลังเรียก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
- งานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ–ธรรมศาสตร์ จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ ท้องสนามหลวง
เอาละเข้าเรื่องกันดีกว่าร่ายมาเยอะแล้ว มาพูดถึงเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” ที่แม่อุ้ยเกี๋ยงได้ร้องให้ฟัง โดยแม่อุ้ยเข้าใจว่าเป็นเพลงชาติ เอาละไปฟังเนื้อร้องกัน
“ไตรรงค์ธงชาติ โบกสบัดสวยงามสง่า
7 นาฬิกา สัญญากันว่ายืนตรง ตรง
สีแดงคือชาติ สีขาวคือศาสนา
น้ำเงินนั้นหนา คือมหาจักรพงษ์”
เนื้อเพลงมีเท่านี้ ที่แม่อุ้ยร้องให้ฟัง ผู้เขียนเลยไปหาข้อมูลต่อว่าเพลงนี้คือเพลงชาติหรือเพลงอะไรกันแน่ได้เค้ามาว่าเป็นเพลง ไตรรงค์ธงไทย แต่ปัจจุบันเนื้อร้องได้เปลี่ยนแปลงไปบางส่วนแล้ว ดังนี้
“ไตรรงค์ธงไทย ปลิวไสวสวยงามสง่า
สีแดงคือชาติ สีขาวศาสนา
สีน้ำเงินนั้นหมายว่า พระมหากษัตริย์ไทย”
เนื้อเพลงดั้งเดิมที่สมบูรณ์ที่พอจะหามาได้คือ (อ้างอิง 2) ซึ่งเป็นเนื้อเพลงที่มีความแตกต่างกันในส่วนของเนื้อที่เพิ่มเข้ามา และ เวลาที่อยู่ในเพลงต่างกันคือ แม่อุ้ย ร้องว่า 7 นาฬิกา แต่ในเนื้อที่ได้จาก พิพิธภัณฑ์ ธงชาติไทย เป็น 8 นาฬิกา
“ไตรรงค์ธงไทย โบกสะบัดสวยงามสง่า
8 นาฬิกา สัญญากันว่ายืนตรง ตรง
พอแปดโมงเช้า ชักธงเคลื่อนออกจากที่
ไตรรงค์สามสี ปลิวสะบัดพัดอยู่เหนือลมๆ
สีแดงคือชาติ สีขาวคือศาสนา
สีน้ำเงินนั้นหนา คือมหาจักรพงศ์”
ในส่วนนี้ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตเป็น 2 ทางคือ 1. แม่อุ้ยเกี๋ยงอาจจะจำคลาดเคลื่อนเนื่องจากเป็นเวลานานทำให้หลงลืมเนื้อร้องจาก 7 เป็น 8 นาฬิกา 2. หรือตอนนั้นมีการร้องเพลงกันไม่ตรงตามเนื้อที่กรุงเทพส่งมาถึงเนื่องจากไกลปืนเที่ยงตามที่ปรากฏในงานวิจัยของ ชนิดา พรหมพยัคฆ์ “ขอให้ผู้มีหน้าที่ รับผิดชอบในการชักธงพึงระมัดระวังว่า เวลาชักธงขึ้นคือ 8 นาฬิกา เวลาชักธงลง คือ 18 นาฬิกา (ส่วนธงเรือนั้นคงปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของการชักรงประจำเรือ)” (อ้างอิง 3)
นอกจากนี้ในงานวิจัยของ ชนิดา พรหมพยัคฆ์ ก็ได้ระบุว่า ในช่วงประมาณ พ.ศ. 2506 ได้มีบทเพลงปลุกใจชื่อเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” (ไม่ทราบผู้ประพันธ์) แพร่หลายขึ้น โดยมีเนื้อหา สั้นๆ ว่า “ไตรรงค์ธงไทย ปลิวไสวสวยงามสง่า สีแดงคือชาติ สีขาวศาสนา สีน้ำเงินนั้นหมายว่า พระมหากษัตริย์ไทย” แสดงให้เห็นว่ามีการนำบทเพลงนี้นกลับมาเผยแพร่ใหม่อีกครั้งในปีดังกล่าว
และเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” เคยมีการนำมาร้องบันทึกเสียงลงใน เทป 8 แทร็ค โดยสุเทพ วงศ์กำแหง และ รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส เมื่อปี พ.ศ.2512 ด้วยเช่นกัน
ผู้เขียนจึงหาข้อมูลต่อว่าใครเป็นผู้แต่งเพลงดังกล่าว ไล่เรียงต่อได้เข้ามูลเพิ่มเติมเพียงว่า ประเทศสยามเปลี่ยนจากธงชาติมาเป็น ธงไตรรงค์ เมื่อ พ.ศ.2460 ตามบันทึกไว้ในจดหมายเหตุรายวันของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(อ้างอิง 4) และได้เข้าร่วมใช่ธงไตรรงค์ในสงครามโลกครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ.2462
และได้ค้นพบเนื้อหาบางส่วนจากบทความ มักกะลีผล บทที่ 11 ของ สุทัสสา อ่อนค้อม (อ้างอิง 5) มีเนื้อความ ดังนี้
“ บทที่ ๑๑ พันตรีพิบูลย์สงคราม
“พันตรีพิบูลย์สงคราม พันตรีพิบูลย์สงคราม ยกเป็นนามชาติไทย เกียจติศักดิ์อันสูงสุด อย่าลืมบรรพบุรุษของไทย พันตรีพิบูลย์สงคราม” เสียงร้องเพลงแจ้วๆ ดังมาจากประตูรั้ว คนอายุ ๘๔ กำลังดายหญ้าอยู่ในสวนหลังบ้านจึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง ประมาณ ๗ นาฬิกา ของทุกวันหลานชายจะหาบสาแหลกเปล่ากลับมาบ้านหลังจากขายของหมด หากเดินร้องเพลงเข้ามาแปลว่าวันนั้นขายดี วันไหนขายไม่ดีก็จะไม่มีเสียงเพลงจากเค้า นอกจากเพลงพันตรีพิบูลย์สงครามแล้ว อีกเพลงหนึ่งที่ยายได้ยินเค้าร้องเป็นประจำคือเพลงธงไตรรงค์โดยเฉพาะเนื้อร้องที่ว่า สีแดงคือชาติ สีขาวคือพระศาสนา สีน้ำเงินนั่นหนาคือพระมหาจักรพงศ์นั้น ยายชอบนักชอบหนาฟังแล้วเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยซึ่งเป็นชาติอิสระ ไม่ขึ้นกับใครมีพระศาสนาเป็นเครื่องนำทางชีวิตและมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นที่รวมแห่งความจงรักภักดีของคนในชาติ”
ทำให้ทราบทันทีว่าเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” มีมาก่อนหรืออย่างน้อยที่สุดก็คือช่วงสมัยที่ จอมพล ป. พิบูลย์สงคราม อยู่ในชั้นยศ พันตรีพิบูลย์สงคราม ซึ่งไม่เกินปี พ.ศ.2475 เนื่องจาก จอมพล ป. พิบูลย์สงคราม เลื่อนยศเป็น พันโท ในปี พ.ศ.2476 (อ้างอิง 6)
แต่หากจะกล่าวว่าเพลงแต่ขึ้นก่อนปี พ.ศ.2477 แน่นอน ก็อาจขัดกับข้อมูลของอุ้ยเกี๋ยงที่ให้ข้อมูลว่าร้องประมาณชั้นประถม 1 เมื่อเทียบปีแล้วพบว่า แม่อุ้ยเกี๋ยงเกิดปี พ.ศ.2477 ได้เข้าโรงเรียนและเรียนอยู่ระดับชั้นประถม 1 ได้ร้องเพลงไตรรงค์ธงไทย อายุก็ประมาณ 7–9 ขวบ ก็จะประมาณ พ.ศ.2484–2486 ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ก็สอดคล้องกับเนื้อหาของเพลงที่บอกว่า “7 นาฬิกา สัญญากันว่ายืนตรง ตรง” ซึ่งมีระเบียบการชักธงชาติ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2478 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรกที่กำหนดถึงระเบียบในการชักธงและการประดับธงชาติ แม้ว่าการยืนเคารพธงชาติที่แพร่หลาย แต่เนื้อหาของเพลงอาจจะแต่งขึ้นพร้อมกับประกาศระเบียบการชักธงชาติก็ได้ แต่การยืนเคารพธงชาติเริ่มต้นแพร่หลายในปี พ.ศ.2485 ผลงานจากรายการวิทยุกระจายเสียง “นายมั่น-นายคง” ได้เชิญชวนและนัดหมายกับประชาชนให้ยืนตรงเคารพธงชาติพร้อมกัน (อ้างอิง 7)
นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่า พ.ศ. 2470 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริว่า เกี่ยวกับการตัดสินว่าจะใช้ธงชาติช้างเผือก หรือ ธงไตรรงค์ ซึ่งช่วงดังกล่าวอาจจะมีการแต่งเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” เพื่อประชาสัมพันธ์ก็ได้(อ้างอิง 8)
หลังจาก พ.ศ.2480 หนังสืออ่านปลุกใจนักเรียน และเพลงปลุกใจเริ่มมีกระบวนการเผยแพร่เพื่อให้ประชาชนรับรู้อย่างมาก เช่น หนังสือประกอบวิชาความรู้เรื่องเมืองไทยและหน้าที่พลเมือง กระทรวงธรรมการ ให้ใช้เป็นแบบเรียน และเพลงปลุกใจ เช่น เพลงเพื่อเอกราช เพลงอนุสติไทย เพลงศึกบางระจัน เป็นต้น (อ้างอิง 9:สิรินธร กีรติบุตร:2528) และเปลี่ยนชื่อประเทศจาก สยาม เป็นไทย ในปี พ.ศ. 2482 (อ้างอิง 10)
เมื่อศึกษาข้อมูลในช่วงของการ เปลี่ยนธงชาติช้างเผือกเป็นธงไตรรงค์ ช่วงปี พ.ศ.2460 สภาพโลกขณะนั้นเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปรึกษาเรื่องธงไตรรงค์กับพระอนุชา คือสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ (อ้างอิง 11) ซึ่งช่วงเวลาขณะนั้นก็มีปัญหาการตั้งรัชทายาทอยู่ด้วย (อ้างอิง 12)
ช่วงเวลาดังกล่าว พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) ผู้มีส่วนในการแต่งเพลงสรรเสริญพระมหกษัตริย์ และเป็นผู้แต่งเพลงชาติด้วย ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น หลวงเจนดุริยางค์ ในปี พ.ศ. 2460 และได้รับบรรดาศักดิ์เป็น พระเจนดุริยางค์ ถือศักดินา ๖๐๐ ในปี พ.ศ. 2465 (อ้างอิง 13)
ผู้เขียนจึงเสนอว่า
- เพลงไตรรงค์ธงไทย เวอร์ชั่นแรก แต่งขึ้นระหว่างปี พ.ศ.2460-พ.ศ.2476 โดย พระเจนดุริยางค์ เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเนื้อเพลงยั้งใช่คำว่า “ไตรรงค์ธงชาติ” และ “มหาจักรพงษ์” ซึ่งผู้เขียนมองว่าการแต่งเพลงเพื่อประชาสัมพันธ์ธงชาติใหม่แบบธงไตรรงค์และเผยแพร่พระบารมีของสายสกุล “จักรพงษ์” ในคราวเดียว
- มีการแก้ไขปรับปรุงเนื้อร้องเพลงไตรรงค์ธงไทย อีกหลายครั้ง หลังปี พ.ศ.2476 พ.ศ.2480 และ พ.ศ.2500 ตามลำดับ
- แม่อุ้ยเกี๋ยงอาจจะได้ร้องเพลงเนื้อหาเก่าเนื่องจากผู้นำร้องเป็นครูซึ่งอยู่ในป่าเขาไกลปืนเที่ยง ไม่ได้อัพเดตเนื้อร้องที่อาจเปลี่ยนไปแล้วเนื่องจากข่าวสารไปไม่ถึงพื้นที่
ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นจากการวิเคราะห์ของผู้เขียนเท่านั้น เพื่อตอบข้อสงสัยของตัวเองเกี่ยวกับเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” และ ใช้เวลาว่างศึกษาประวัติศาสตร์ผ่านคำบอกเล่าของแม่อุ้ยของผู้เขียนเองในช่วงไวรัสโควิด19 ระบาด
(เพิ่มเติม ภายหลัง)
ผู้เขียนได้ค้นคว้าเพิ่มเติมในส่วนของเพลงไตรรงค์ธงไทย โดยหาว่ามีผู้แต่เพลงที่ใช้คำเกี่ยวกับ “ไตรรงค์ ธงไทย” ในยุคดังกล่าวหรือไม่ พบว่า มีชื่อเพลงและผู้แต่ง ดังนี้
- เพลง มาร์ชไตรรงค์ แต่งโดย ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) แต่งขึ้นประกอบภาพยนต์ “เลือดทหาร” ในปี พ.ศ. 2477(อ้างอิง 14)
- เพลง ไตรรงค์ แต่งโดย ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) แต่งขึ้นประกอบภาพยนต์ “เลือดทหาร” ในปี พ.ศ. 2477
- เพลง ไตรรงค์สะบัดชาย แต่งโดย พรานบูรพ์ (จวงจันทร์ จันทร์คณา) แต่งขึ้นและขับร้องในคณะศรีโอภาส ขับร้องโดย ประทุม ประทีปเสน ในเนื้อเพลงมีการใช้คำว่า “ไตรรงค์ ธงไทย”
- เพลง ใต้ร่มธงไทย แต่งโดย พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ (กิมเหลียง วัฒนปฤดา)
- เพลง ไตรรงค์ แต่งโดย พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ (กิมเหลียง วัฒนปฤดา)
- เพลง ไตรรงค์ที่ยอดเสา แต่งโดย พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ (กิมเหลียง วัฒนปฤดา) แต่งขึ้นประกอบละครเรื่อง “อานุภาพแห่งความรัก” สิงหาคม พ.ศ.2499
- เพลง เพื่อไตรรงค์ แต่งโดย พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ (กิมเหลียง วัฒนปฤดา)
จากทั้งหมด 7 เพลงข้างต้น ผู้เขียนคิดว่าเพลงที่ 1 กับ 2 คือเพลงเดียวกัน รวมถึงเพลงที่ 3 ได้ฟังเนื้อร้องแล้วไม่ใช่เนื้อเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” เพลงที่ 4 ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ เป็นผู้แต่งจริงหรือไม่ แต่เนื้อเพลงไม่ใช่ที่ค้นคว้า เช่นเดียวกับเพลงที่ 6 เนื้อเพลงไม่ใช่ที่ผู้เขียนสนใจเช่นกัน
แต่เพลงที่ 5 กับ เพลงที่ 7 ที่แต่งโดย พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าคือเพลงเดียวกันหรือไม่ ยังไม่ได้ฟังหรือได้เห็นเนื้อร้อง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า เพลงไตรรงค์ หรือ เพลงเพื่อไตรรงค์ ของ พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ อาจจะเป็นเพลงเดียวกับ เพลง “ไตรรงค์ธงไทย” ก็เป็นได้ เนื่องจากสอดคล้องกับผลการศึกษาของ ประจักษ์ สังเกตุ(อ้างอิง 15) ที่ศึกษาเกี่ยวกับหัวข้อ “เพลงปลุกใจของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ” ว่า หลวงวิจิตรวาทการ ชอบแต่เพลงปลุกใจ และบางเพลงใช้ชื่อเพลงว่าไตรรงค์ด้วย
อย่างไรก็ตามทำให้เพลงไตรรงค์ธงไทยนี้มีผู้ที่อาจเข้าข่ายเป็นผู้แต่งเพลงดังกล่าว เพิ่มเติม ดังนี้
- พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
- พระเจนดุริยางค์
- ขุนวิจิตรมาตรา
- พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ
ทั้งนี้ต้องวิเคราะห์ทำนองเพลงไตรรงค์ธงไทยว่าอยู่ร่วมสมัยกับทำนองเพลงใดเพื่อให้ได้ข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ให้ใกล้เคียงเพื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลา
อ้างอิง
- วิกิพีเดีย. สืบค้น 8 สิงหาคม พ.ศ.2564. th.wikipedia.org/wiki/พ.ศ._2477
- เพลง : ไตรรงค์ธงไทย (รำมะนา). สืบค้น 10 สิงหาคม พ.ศ.2564. https://www.youtube.com/watch?v=bvrjPifemCA
- ธงไตรรงค์กับการสร้างอุดมการณ์รัฐไทย พ.ศ.2459–2520. ชนิดา พรหมพยัคฆ์. 2543. คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
4. ที่มา “ธงชาติไตรรงค์” ไอเดียใครออกแบบ ทำไมเลือกใช้สีแดง-น้ำเงิน-ขาว. นิตยสารออนไลน์ ศิลปะวัฒนธรรม. สืบค้น 8 สิงหาคม พ.ศ.2564. https://www.silpa-mag.com/history/article_52059
5. ธรรมนิยายชุด สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เรื่องที่ 1 มักกะลีผล บทที่ 11–20. สุทัสสา อ่อนค้อม. สืบค้น 8 สิงหาคม พ.ศ.2564.
6. วิกิพีเดีย. สืบค้น 10 สิงหาคม พ.ศ.2564. https://th.wikipedia.org/wiki/แปลก_พิบูลสงคราม
7. อ่านกันชัดๆ ยืนตรงเคารพธงชาติไทยเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใด. มติชนออนไลน์. https://www.matichon.co.th/social/news_2416260
8. วิกิพีเดีย. สืบค้น 10 สิงหาคม พ.ศ.2564. https://th.wikipedia.org/wiki/ธงชาติไทย
9. เพลงปลุกใจไทย (พ.ศ. 2475–2525) : การวิเคราะห์การเมืองไทย. สิรินธร กีรติบุตร. 2528. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
10. 7 กันยายน 2488 ไทยใช้ Siam เป็นชื่อประเทศในภาษาอังกฤษ สุดท้าย จอมพล ป. เปลี่ยนเป็น Thailand. ธนกร วงษ์ปัญญา. สืบค้น 9 สิงหาคม พ.ศ.2564. https://thestandard.co/7-september-2488-changed-the-countrys-name-from-siam-to-thailand/
11. การสืบราชสันตติวงศ์โดยราชสกุล “มหิดล”. กษิดิศ อนันทนาธร. https://www.the101.world/mahidol-king
12. ปัญหาตั้งรัชทายาทสมัยร.6 เจ้าฟ้าจักรพงษ์ ผู้มีสิทธิในราชบัลลังก์ปะทะฝีปากเจ้านาย. นิตยสารออนไลน์ ศิลปะวัฒนธรรม. สืบค้น 10 สิงหาคม พ.ศ.2564. https://www.silpa-mag.com/history/article_44582
13. พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร). สืบค้น 9 สิงหาคม พ.ศ.2564. https://th.wikipedia.org/wiki/พระเจนดุริยางค์_(ปิติ_วาทยะกร)
14.sirindhornmusiclibrary.li.mahidol.ac.th/thai_contemporary_mu/plenthaisakol-86/
15. ประจักษ์ สังเกตุ. (2540). เพลงปลุกใจของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ. มหาวิทยาลัยมหิดล.